อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง BeariOt IoT, Internet of Things คืออะไร?

อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง BeariOt IoT, Internet of Things คืออะไร?

IoT (Internet of Things) หรือ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง คือเครือข่ายของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องอาศัยการควบคุมจากมนุษย์โดยตรง

ตัวอย่างของ IoT

  • สมาร์ทโฮม (Smart Home)
    - หลอดไฟอัจฉริยะที่สามารถเปิด-ปิดผ่านแอปพลิเคชัน
    - เครื่องปรับอากาศที่ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติตามสภาพอากาศ
    - อุตสาหกรรมและการผลิต (Industrial IoT - IIoT)
  • เครื่องจักรในโรงงานที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนเมื่อมีปัญหา
  • ระบบเซ็นเซอร์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าในสายการผลิต
  • สุขภาพและการแพทย์ (Healthcare IoT)
  • อุปกรณ์ติดตามสุขภาพ เช่น สมาร์ทวอทช์ที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • ระบบติดตามผู้ป่วยที่ส่งข้อมูลไปยังแพทย์แบบเรียลไทม์
  • การขนส่งและยานยนต์ (Smart Transportation)
  • รถยนต์ที่สามารถเชื่อมต่อ GPS และอินเทอร์เน็ตเพื่อนำทางอัตโนมัติ
  • ระบบติดตามและจัดการขนส่งแบบเรียลไทม์

ประโยชน์ของ IoT

  • เพิ่มความสะดวกสบาย – ทำให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น เช่น การควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านมือถือ
  • ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ – ในภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม IoT ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มผลผลิต
  • ความปลอดภัยและเฝ้าระวัง – ใช้ในระบบกล้องวงจรปิดและการตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์
  • สนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูล – ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการทำงาน

หลักการทำงานของ IoT (Internet of Things)

IoT ทำงานโดยให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต โดยมีองค์ประกอบหลัก 4 ส่วน ได้แก่

อุปกรณ์ (Things/Devices)

  • อุปกรณ์ IoT เช่น เซ็นเซอร์ กล้องวงจรปิด หลอดไฟอัจฉริยะ เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • ทำหน้าที่เก็บข้อมูล เช่น อุณหภูมิ การเคลื่อนไหว ระดับน้ำ ฯลฯ
  • การเชื่อมต่อ (Connectivity)

อุปกรณ์ IoT ต้องมีช่องทางเชื่อมต่อ เช่น

  • Wi-Fi
  • Bluetooth
  • Zigbee
  • LoRaWAN
  • 4G/5G
  • เพื่อส่งข้อมูลไปยังระบบคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์
  • แพลตฟอร์มประมวลผลและคลาวด์ (Cloud & Processing Platform)

ข้อมูลที่ถูกส่งจากอุปกรณ์ IoT จะถูกเก็บและประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์
ใช้ AI และ Machine Learning วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้เกิดการตัดสินใจอัตโนมัติ
ส่วนแสดงผลและการควบคุม (User Interface & Application)

ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและควบคุมอุปกรณ์ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ เช่น

  • แอปพลิเคชันสมาร์ทโฮม (เปิด-ปิดไฟผ่านมือถือ)
  • ระบบแจ้งเตือนอุณหภูมิสำหรับฟาร์มอัจฉริยะ
  • กระบวนการทำงานของ IoT โดยสรุป
  • อุปกรณ์ IoT เก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ เช่น อุณหภูมิ แสง การเคลื่อนไหว
  • ส่งข้อมูล ผ่านเครือข่าย เช่น Wi-Fi หรือ 5G ไปยังคลาวด์
  • ประมวลผลข้อมูล บนคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์
  • แจ้งเตือนหรือควบคุมอุปกรณ์ เช่น แจ้งเตือนผ่านมือถือ หรือสั่งเปิด-ปิดอุปกรณ์อัตโนมัติ

ตัวอย่างการทำงานของ IoT

  • บ้านอัจฉริยะ (Smart Home)
    เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว → ส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ → แจ้งเตือนผู้ใช้ผ่านมือถือ
  • ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Agriculture)
    เซ็นเซอร์วัดความชื้นในดิน → ระบบตัดสินใจเปิดสปริงเกอร์อัตโนมัติ
  • การแพทย์ (Healthcare IoT)
    สมาร์ทวอทช์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ → แจ้งเตือนแพทย์ทันที

สรุป
IoT ทำงานผ่าน 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ อุปกรณ์, เครือข่าย, คลาวด์, และแอปพลิเคชัน โดยกระบวนการหลักคือ เก็บข้อมูล → ส่งข้อมูล → ประมวลผล → ควบคุมอุปกรณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและอัตโนมัติในหลายอุตสาหกรรม